วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อาหารกับกรุ๊ปเลือด

การกินอาหารนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพ เรากินอะไรเข้าไปร่างกายเราก็ได้รับสิ่งเหล่านั้น เป็นของดีมีประโยชน์ต่อร่างกายก็เป็นคุณ เมื่อร่างกายไม่รับก็เป็นโทษ มันก็จะแสดงออกมาในรูปแบบของโรคภัยไข้เจ็บ   อาหารที่กินนั้น เราสามารถเลือกกินให้เหมาะสมได้จากหลายๆปัจจัย  วันนี้เราขอเสนอการเลือกกินอาหารให้เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการดูแลสุขภาพกายค่ะ
เลือดกรุ๊ป โอ     
กรุ๊ปเลือดโอ
เป็นกรุ๊ปเลือดของมนุษย์ถ้ำหรือนักล่าสัตว์ (เป็นมนุษย์กลุ่มดึกดำบรรพ์และเชื่อว่าเป็นกรุ๊ปเลือดแรกที่เกิดขึ้นในโลก ต่อมาร่างกายเกิดการปรับตัวสู้กับเชื้อโรค จึงมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงเป็นกรุ๊บเอ, บี, เอบี ในเวลาต่อมา)
กรุ๊ปเลือดโอ เป็นกรุ๊ปเลือดของมนุษย์ถ้ำหรือนักล่าสัตว์ (เป็นมนุษย์กลุ่มดึกดำบรรพ์และเชื่อว่าเป็นกรุ๊ปเลือดแรกที่เกิดขึ้นในโลก ต่อมาร่างกายเกิดการปรับตัวสู้กับเชื้อโรค จึงมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงเป็นกรุ๊บเอ, บี, เอบี ในเวลาต่อมา)บุคคลเลือดกรุ๊ปโอนั้น มักเสี่ยงกับการเป็นโรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากกระเพาะอาหารมีความเป็นกรดสูง แต่มีคุณสมบัติดีในการย่อยเนื้อสัตว์ดีมากเพราะมีความเป็นกรดสูง ทำให้ย่อยเร็วและดูดซึมดี และสามารถให้ประโยชน์สูงสุดต่อส่วนต่างๆของร่างกาย

กรุ๊ปโอ เป็นกรุ๊ปเลือดที่มีวิตามินมากพอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะมีปัญหาบ้างที่จะเกี่ยวกับระบบ metabolism (การเผาผลาญเพื่อนำพลังงานไปใช้ในระบบร่างกาย) จึงควรรับประทานอาหารที่มีไวตามินบี   เช่น เนื้อ ตับ เซี่ยงจี๊ ไข่ 5ฟอง/อาทิตย์ ผลไม้ ผักใบเขียวและถั่ว ซึ่งเป็นชนิดที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอ หรือเสริมด้วย ไวตามิน บี-คอมเพล็กซ์

คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ดังนั้นจึงต้องเสริมสร้างวิตามิน เค ให้เลือดกรุ๊ปนี้ด้วยรับประทานตับ ไข่แดง  คะน้า สปินิช ผัก Swiss chard และควรหันมารับประทานแป้งสเปลท์แทนแป้งสาลี

และระบบย่อยของคนเลือดกรุ๊ปโอ ไม่รับแคลเซียมจากผลิตภัณฑ์นม จึงต้องหาแคลเซียมจากที่อื่นแทนซึ่งนั่นก็ได้แก่ ปลาซาร์ดีน หรือ ปลาแซลมอนกระป๋องทั้งก้าง บร็อคโคลี่ และผักcollard green 
สำหรับเด็ก ที่อายุ 2-5 ขวบ และ 9-16 ขวบ รวมทั้งผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนอาจต้องเพิ่มแคลเซียมเสริม 600-1,100 มิลลิกรัม และเพื่อเป็นการป้องกันการอักเสบในส่วนต่างๆของร่างกายด้วย

อาหารอีกชนิดที่คนเลือดกรุ๊ปจะต้องรับประทานคือ อาหารทะเล เพราะอาหารทะเลนั้นจะให้ไอโอดีน เป็นการเพิ่มผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ซึ่งจะช่วยทำให้ควบคุมน้ำหนักของคนเลือดกรุ๊ปนี้ให้คงที่ เพราะถ้าหากไทรอยด์ไม่คงที่จะทำให้อ้วนได้ง่าย 
สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ อาหารจากนม, กาแฟ, น้ำอัดลม, ชาดำ, แตงโม, แคนตาลูป, ข้าวโพด, ข้าวสาลี, ขนมปัง, ถั่วแดง, กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก โดยเฉพาะกะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก เพราะมีสารที่ไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ กลุ่มเลือดนี้จะมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคไทรอยด์ได้ง่าย
ผลไม้ที่รับประทานกับเลือดกรุ๊ปโอได้จะมีไม่กี่ชนิด เช่น พลับ พรุน และมะเดื่อ ผลไม้จำพวกนี้จะช่วยลดการละคายเคืองในกระเพาะอาหารได้

น้ำผลไม้ที่ดี คือ นำสับปะรด จะช่วยอุ้มน้ำของเซลในร่างกาย หรือน้ำแบลคเชอรี่ จัดว่าเป็นน้ำที่ดีกับเลือดกรุ๊ปโอมาก เพราะเป็น High alkaline juice ทำให้ลดการระคายเคืองของกระเพาะ

ส่วนถ้าเป็นการดื่มชาสมุนไพรนั้นก็มีชาบางชนิดที่เสริมกับกรุ๊ปเลือดได้ดี เช่น Licoria ช่วยในเรื่องของกระเพาะ ,Peppermint,Parsley,Rosehips,Sarsaparilla ช่วยลดความเครียด เป็นต้น
เลือดกรุ๊ป เอ
กรุ๊ปนี้จะเป็นกรุ๊ปทีมีความแตกต่างจากรุ๊ปโอ โดยสิ้นเชิง เพราะประชากรกรุ๊ปเอ นั้นจัดว่าเป็นพวกมังสวิรัติ ซึ่งมาจากระบบย่อยเป็นเหตุ

คนเลือดกรุ๊ปเอ จึงควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง ถ้าต้องการรับประทานเนื้อก็ให้เลือกที่จะรับประทานเนื้อไก่แทน เพราะไม่มัน

ควรระวังอาหารสำเร็จรูป เช่นไส้กรอกและแฮม เพราะมีไนไตรท์ ซึ่งกระตุ้นการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร อีกทั้งคนเลือดกรุ๊ปเอจะมีกรดในกระเพาะต่ำ

และเพื่อเป็นการต่อต้านมะเร็ง คนเลือดกรุ๊ปเอ จึงควรรับประทานวิตามิน ซี เพิ่มซึ่งเป็น antioxidants ช่วยในเรื่องของกรดในกระเพาะต่ำ   ส่วนในอาหารจะได้วิตามินซี จาก บร็อคโคลี่ผลไม้พวกเบอรี่ เกรฟฟรุต หรือส้มโอ สับปะรด เชอรี่และมะนาวฝรั่ง   

นอกจากนี้ยังควรที่จะรับประทานอาหารที่มีวิตามินอี สูง เพื่อป้องกันทั้งโรคหัวใจและมะเร็ง วิตามินอีนี้จะมีอยู่ในน้ำมันพืช ธัญพืช ถั่งลิสงและผักใบเขียว  รวมถึงควรรับประทาน อาหารเพื่อสร้างระบบคุ้มกันด้วย ซึ่งอาหารพวกนี้จะเป็นอาหารที่มีวิตามิน บี มากๆเช่น ธัญพืชขัดสี ปลา และไข่

ส่วนเรื่องของแคลเซียมนั้น ถ้าเป็นการดื่มนม คนเลือดกรุ๊ปเอ ไม่ค่อยจะเหมาะกับการดื่มนมซักเท่าไหร่ แต่ก็ยังดื่มได้มากกว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ แคลเซียมที่เลือดกรุ๊ปเอจะได้นั้น ส่วนใหญ่มาจากโยเกิร์ตไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง ไข่ นมแพะ ปลาแซลมอนและปลาซาร์ดีนทั้งก้าง(กระป๋อง) บร็อคโคลี่และสปินิช

การไม่กินเนื้อสัตว์ของคนเลือดกรุ๊ปเอ จะทำให้ขาดธาตุเหล็กจึงควรรับประทานข้างกล้อง ถั่วมะเดื่อ และน้ำตาลโมแลสซิส(สีดำที่เอามาทำซีอิ๊วดำหวาน) ประกอบด้วย

กรุ๊ปเอ ควรรับประทานผลไม้วันละ 3 เวลา ควรเน้นไปที่ Alkaline fruit เช่นแบรี่และผลพลัม (ผลไม้ที่มีความเป็นกลางของกรด) จะช่วยความเป็นกลางในการสร้างกรดในกล้ามเนื้อ  ควรเลี่ยงแตงโม แคนตาลูป และผลไม้เมืองร้อนเช่น มะม่วง มะละกอ กล้วย เพราะทำให้อาหารไม่ย่อย สับปะรด ส้มโอ มะนาวจะช่วยย่อยดีมาก รวมถึงมะนาวยังจะช่วยละลายเสมหะในระบบของเลือดกรุ๊ปเอ ดังนั้นทุกเช้าควรดื่มน้ำอุ่นที่ผสมมะนาวครึ่งลูก
เลือดกรุ๊ปบี
คนเลือดกรุ๊ปนี้จัดอยู่ในพวกสมดุล เพราะเป็นเลือดเพียงกรุ๊ปเดียวที่สามารถรับประทานอาหารนม เนย ไข่ ได้อย่างเต็มที่

แต่โปรตีนชนิดที่เลือดกรุ๊ปบี รับประทานแล้วเป็นผลร้ายมากที่สุดคือ ไก่  Lectin ในเนื้ออกไก่จะรบกวนระบบและนำไปสู่อาการเส้นเลือดแตกหรือตีบในสมอง รวมถึงโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรรับประทานไก่งวงแทน

คนเลือดกรุ๊ปบี ควรจะรับประทานปลาน้ำลึก เช่นปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว เช่น ปลาจะระเม็ด ปลาตาเดียว

ร่างกายของเลือดกรุ๊ปบีจะตอบสนองต่อน้ำมันโอลีฟดีมาก ควรทานไม่น้อยกว่าวันละ 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนข้าวโอ๊ตกับข้าวกล้องนั้นจะมีประโยชน์ต่อกรุ๊ปบีเช่นเดียวกัน

ถั่วต่างๆไม่ดีนักต่อเลือดกรุ๊ปบี โดยเฉพาะถั่วลิสง งา และเม็ดทานตะวัน ซึ่งมี Lectinที่รบกวนระบบสร้างอินซูริน สิ่งนี้มีผลร้ายทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้มากในคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้

ถั่วแดงหลวง  และถั่วเหลืองทานได้แต่อย่ามากนัก เพราะพืชตระกูลถั่วและนัท อื่นๆ จะมีแนวโน้มทำให้เกิดโรค น้ำตาลในเลือดลดกะทันหัน

คนเลือดกรุ๊ปบีสามารถเลือกรับประทานผักได้เกือบทั้งหมด เว้นอยู่ไม่กี่ชนิดเช่น มะเขือเทศ ข้าวโพด  เลือดกรุ๊ปบีนั้น มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับไวรัสและภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรรับประทานผักใบเขียวมากๆเพราะมีแมกนีเซียมซึ่งช่วยป้องกันโรคผื่นคันในเด็ก ส่วนผลไม้นั้นก็สามารถรับประทานได้แทบทุกชนิด เพราะมีระบบย่อยที่สมดุล มีเพียงลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ที่ควรเลี่ยง  คนเลือดกรุ๊ปบีควรรับประทานผลไม้ที่มีผลต่อเลือด 2-3 ครั้งต่อวัน จะไห้ผลดีในการรักษาโรคและลดความเจ็บป่วยด้วย
เลือดกรุ๊ป เอบี
การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพดีเยี่ยมของเลือดกรุ๊ปนี้ค่อนข้างจะซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของทั้งกรุ๊ปเลือด เอ และบี  อาหารที่ดีต่อกรุ๊ป เอ และบี ก็ดีต่อ กรุ๊ปเอบี ด้วย  แต่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามอย่างจริงจัง  อาหารมังสวิรัติจะให้ผลดีต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์นมและไข่ รับประทานได้แต่ไม่มาก โปรตีนที่เหมาะสมจะได้จากอาหารทะเล เต้าหู้ เนื้อแดง แกะ กวาง และกระต่าย ซึ่งควรรับประทานครั้งละน้อยๆจึงจะย่อยได้ดี เพราะกระเพาะของคนเลือดกรุ๊ป เอบี ไม่ผลิตน้ำย่อยเพียงพอที่จะย่อยโปรตีนที่มากเกินไป

ไม่ควรรับประทานปลาเนื้อขาวและแซลมอนรมควัน ควรรับประทานหอยทากเพราะมี Lectin ที่ต้านมะเร็งเต้านม แม้เลือดกรุ๊ปเอบี จะรับประทาน นม เนย ไข่ ได้คล้ายกรุ๊ปบี แต่โยเกิร์ตและครีมเปรี้ยวจะย่อยได้ง่ายกว่า  หากมีเสมหะและมีปัญหาไซนัสอักเสบและหูอื้อ ควรงดอาหารที่ผลิตจาก นม เนย ไข่

ไข่ เป็นแหล่งอาหารที่ดีต่อเลือดกรุ๊ปนี้  แต่ควรใช้ประกอบอาหารในอัตราส่วน ไข่ขาว2ฟองต่อ ไข่แดง 1 ฟอง

ส่วนน้ำมันนั้นควรจะใช้นำมันมะกอกอย่างเดียว เพราะเป็นน้ำมันเพียงชนิดเดียวที่ให้ผลดีกับเลือดกรุ๊ปเอบี

ถั่ว กับเลือดกรุ๊ปเอบีนั้น มีเพียงสามชนิดที่ให้คุณ ซึ่งได้แก่ ถั่งลิสง จะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี ก็ไม่ควรรับประทานถั่วเม็ด แต่ให้เปลี่ยนเป็นเนยถั่ว  ถั่วชนิดที่สองและสามคือ ถั่วเลนทิลและถั่วเหลือง  เพราะเป็นอาหารป้องกันมะเร็งที่สำคัญมาต่อกรุ๊ปเลือด เอบี

อาหารประเภทข้าวและแป้ง เช่น ข้าว ข้าวโอ๊ต และข้าวไรย์ มีประโยชน์แต่ระวังการรับประทานอาหารประเภทแป้งข้าวโพด หากต้องการลดเสมหะควรรับประทานไม่เกิน 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์

คนเลือดกรุ๊ป เอบี จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ จึงควรรับประทานผักสดมากๆเพราะเป็นอาหารสำคัญในการป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งเกิดได้ง่ายในกรุ๊ปเอบี

ส่วนเรื่องของผลไม้นั้น คนเลือดกรุ๊ปนี้จะสามารถรับประทานผลไม้ได้ดีเพียงบางอย่าง เช่น องุ่น พลัม และแบรี่ เพราะเป็นผลไม้ที่มีกรดเป็นกลาง ช่วยสร้างความสมดุลให้เนื้อเยื่อ อันเนื่องมาจากการบริโภคแป้งและข้าว

เรื่องของการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อรักษาสมดุลของร่ายกายและแก้ปัญหาเรื่องการเกิดโรคภัยต่างๆ ลองนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันดูนะค่ะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Delete this element to display blogger navbar

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More